ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ต้นปี 2012 ของ Apple แม้ว่าจะเป็นครั้งที่ 2 ที่ไม่ใช่ สตีฟ จ๊อปส์ เป็นหัวเรือที่ออกมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของ Apple ผมเองก็ยังรู้สึกแปลกๆ อยู่ดี น่าจะเพราะการติดภาพของน้าสตีฟตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมคิดว่า Apple ยุคใหม่นั้น น่าจะไม่ใช่ภาพของคนๆเดียว แต่น่าจะเป็น Apple แบบทีม ที่เดินตามแนวทางและปรัชญา ของผู้ก่อตั้งอย่าง สตีฟ จ็อปส์
งานครั้งนี้เหมือนจะพูดได้เต็มปากแล้วว่า เรามาถึงยุค Post PC แล้ว ดูจากยอดขายของ iPad ที่ตั้งแต่เปิดตัวก็ขายไปแบบบ้าคลั่ง สังเกตุง่ายๆ ว่า อาม่าแถวบ้านผมยังใช้ iPad เป็น (เป็นภายใน 5 นาทีด้วย) นั่นคือ มันเข้าถึงทุกคนได้ง่ายแบบเหลือเชื่อ และตอนนี้ซอฟแวร์ระดับโปรที่เคยอยู่แต่บนคอม ก็เริ่มหันมาพัฒนาให้กับ Tablet กันมากขึ้น เช่น Photoshop และโปรแกรมเขียนแบบอย่าง Auto Cad
ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีการเปิดตัวในงานนี้
- Apple TV ตัวใหม่ รองรับ 1080P และ iCloud Movie อันนี้พี่ไทยคงไม่สนกันเท่าไหร่
- The new iPad (หรือที่เราเรียกว่า iPad 3 นั่นแล) คือ iPad ตัวใหม่ต่อจาก iPad2 ใช้ชื่อใหม่ และคิดว่าค่าคงไม่มีใครเดาถูก (ผมสงสัยเหลือเกินว่าคนไทยจะเรียกว่าอะไร) ก็คือต่อไป Apple น่าจะใช้ชื่อ iPad เฉยๆ แล้วครับ อาจไม่มี iPad3 iPad4 iPad HD ก็คืออาจจะเรียกเป็นปี แบบ Macbook แทน เช่น iPad รุ่นปี 2012 ประมาณนั้น
ภาพจาก engadget.com
The new iPad (iPad3) มีอะไรแตกต่างจาก iPad2
The new iPad นั้น รูปร่างภายนอกไม่ได้ต่างจาก iPad2 แค่ความหนาและน้ำหนักเพิ่มขึ้นนิดหน่อย ส่วนหลักๆ ที่เพิ่มขึ้นมาก็มีดังนี้ครับ
- จอแบบ Retina Display ความละเอียดสูงขึ้น 4 เท่า (ฟังไม่ผิดครับ) สีสดขึ้นถึง 44% (ผมแยกเขียนเกี่ยวกับข้อนี้ใว้ด้านล่าง)
- มาพร้อมระบบปฎิบัติการ iOS 5.1
- CPU เปลี่ยนจาก A5 เป็น A5X มีดีตรงเรื่องการประมวลผลกราฟิคที่เร็วกว่า iPad2 2 เท่า เกิดมาเพื่อ Retina Display โดยเฉพาะ
- กล้องหลังใหม่ เพิ่มจาก 7 แสน เป็น 5 ล้าน (กล้องหน้าเท่าเดิม) ใช้เทคโนโลยีเหมือนกับกล้องที่มีอยู่ใน iPhone4S แต่ความละเอียดภาพน้อยกว่า
- อัดวิดีโอที่ 1080P พร้อมระบบกันสั่นที่ใช้ได้จริง
- Voice dictation หรือพูดแทนพิมพ์ (ตั้งเอง) คือไม่ต้องพิมพ์แต่พูดแทน แล้วเครื่องมันจะพิมพ์ให้ เจ๋งดีครับแต่พี่ไทยก็อดเหมือนเดิมเพราะยังไม่ซับพอร์ตภาษาไทย (และยังไม่รองรับด้วย Siri นะครับ)
- รองรับ 4G LTE สารภาพว่าไม่ได้สนใจมาก เพราะบ้านเรา 3G ยังช้าเลย แต่ที่ US มันเร็วกว่าแบบรู้สึกได้
- Personal Hotspot คือถ้าเป็นรุ่นใส่ซิมได้ ก็จะแบ่งสัญญานเน็ตให้อุปกรณ์อื่นๆอย่าง โน็ตบุ๊ค สมาร์ตโฟน หรือ iPad ของเพื่อนได้ครับ (คืออยู่ใกล้ๆกันนะ)
พูดถึง Retina Display แบบบ้านๆ
เทคโนโลยี Retina Display นั้นมีมาตั้งแต่ iPhone4 แล้วล่ะครับ (เราสามารถรู้สึกได้จากการเห็นด้วยตาเปล่าเลยว่ามันชัดกว่า iPhone 3GS) สำหรับ Retina Display ใน iPad พูดง่ายๆว่ามันคือ จอ iPhone ขนาดใหญ่เท่า iPad นั่นแหละครับ สำหรับผมการเพิ่มความละเอียดหน้าจอนั้น เหมือนกับผู้หญิงที่แต่งหน้าเป็น คือคุณสามารถรู้ได้ว่า “มันต่าง” และสวยขึ้น โดยไม่ต้องทดลองใช้ด้วยซ้ำ
Retina Display นั้นเหมาะมากสำหรับงานรายละเอียดสูงครับ อย่างภาพถ่ายขนาด 12 ล้าน หรือวิดีโอขนาด Full HD ซึ่งทาง Apple เองคงไม่ได้มองว่า iPad นั้นเป็นแค่เครื่องมือที่ใช้แค่เพียงการ “เสพย์สื่อ” เหมือนกับ iPad รุ่นแรกอีกต่อไป แต่น่าจะจะเป็นเครื่องมือการ สร้างสรรค์ผลงาน ได้เลยล่ะครับ น่าเป็นผลิตภัณฑ์หลักในยุคที่เข้าสู่ยุค Post PC ของ Apple เลยทีเดียว
อัพเดทอื่นๆ
- ตอนนี้ Apple ลดราคา iPad2 เหลือราคาเริ่มที่ 13,500 บาทครับ ลองไปเดินดูตามร้านพวก iStudio ดูนะ เป็นไงก็บอกกันมั่ง
- New iPad (iPad3) เข้าไทย 27 เมษายนนี้ครับ